เอสเอสไอประกาศนโยบายการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของกลุ่มบริษัทเอสเอสไอ โดยกําหนดเป้าหมาย กลยุทธ์ และแนวทางการดําเนินงาน มุ่งสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ของกลุ่มบริษัท สอดคล้องกับนโยบายของประเทศและข้อตกลงด้านสิ่งแวดล้อม ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พร้อมเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์เหล็ก นวัตกรรม เทคโนโลยี รวมถึงการใช้ พลังงานสะอาด ตอกย้ำการดำเนินงานเพื่อความยั่งยืนของอุตสาหกรรมเหล็กในอนาคต

นายวิน วิริยประไพกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) หรือเอสเอสไอ กล่าวว่า เอสเอสไอในฐานะผู้นำอุตสาหกรรมเหล็กของประเทศได้ตระหนักถึงความสำคัญในการมีส่วนร่วมแก้ไขปัญหา การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน ซึ่งถือเป็นความท้าทายระดับโลกที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมทั้งในปัจจุบันและอนาคต กลุ่มบริษัทฯ จึงมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงการดูแลสภาพภูมิอากาศ เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของประเทศ และข้อตกลงด้านสิ่งแวดล้อมระหว่างประเทศว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ จึงได้มีการประกาศนโยบายการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของกลุ่มบริษัทเอสเอสไอ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้กลุ่มบริษัทเอสเอสไอเกิดการปฏิบัติที่มีประสิทธิภาพในการบริหารจัดการด้านการเปลี่ยนแปลง สภาพภูมิอากาศ ดังนี้

  1. กําหนดเป้าหมาย กลยุทธ์และแนวทางการดําเนินงาน เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ของกลุ่มบริษัท ให้สอดคล้องกับนโยบายของประเทศ และข้อตกลงด้านสิ่งแวดล้อมว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
  2. จัดทำรายงานข้อมูลการปล่อยและดูดกลับก๊าซเรือนกระจกจากกิจกรรมต่างๆขององค์กร (Carbon Footprint for Organization) เพื่อขับเคลื่อนให้เกิดการบริหารจัดการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของกลุ่มบริษัท
  3. ส่งเสริมการใช้พลังงาน การใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ตลอดจนส่งเสริมการวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม รวมทั้งติดตามนโยบาย ตลาดคาร์บอน และการสนับสนุนทางการเงิน เพื่อให้เกิดการลดก๊าซเรือนกระจกอย่างยั่งยืน สอดคล้องกับการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
  4. สร้างความตระหนักรู้และการมีส่วนร่วมในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการดำเนินงาน ให้แก่พนักงาน ลูกค้า คู่ธุรกิจ และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้องทั้งภายใน และภายนอกองค์กร

นอกจากนี้ เอสเอสไอได้มีการดำเนินงานเพื่อตอกย้ำเจตนารมณ์ และความมุ่งมั่นด้านลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างจริงจัง 1) ด้านผลิตภัณฑ์ เอสเอสไอได้กำหนดเป้าหมายภายในปี 2025 ที่จะยกระดับ 11 ผลิตภัณฑ์เหล็ก ซึ่งปัจจุบันได้มาตรฐานฉลากสิ่งแวดล้อมประเภท 2 ตาม ISO14021 เป็นฉลาก ECO PLUS ที่รับรองโดยกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อมและสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และมีเป้าหมายที่จะพัฒนา 9 ผลิตภัณฑ์เหล็กให้ได้ EPD (Environmental Product Declaration) 2) ด้านเศรษฐกิจหมุนเวียน เอสเอสไอใช้ทรัพยากรทุกชนิดอย่างมีประสิทธิภาพ ทรัพยากรน้ำและของเสียจากกระบวนการผลิตถูกนำกลับมาใช้ประโยชน์ทั้งหมด 100% 3) ด้านพลังงานสะอาด เอสเอสไอกำลังศึกษาการใช้พลังงานหมุนเวียน

เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ เชื้อเพลิงชีวมวล และก๊าซชีวภาพ โดยเน้นการใช้ศักยภาพของท้องถิ่นและส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน โดยมีเป้าหมายนำเข้ามาทดแทนการใช้พลังงานจากฟอสซิลทั้งหมด 100% นอกจากนี้ ได้มีการศึกษาเทคโนโลยีการผลิตพลังงานสะอาด ได้แก่ Green hydrogen ที่ไม่มีการปล่อยก๊าซ CO2 สู่ชั้นบรรยากาศ รวมทั้งมีบทบาทผลักดันการพัฒนาพลังงานไฮโดรเจนทั้งห่วงโซ่คุณค่า

“การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นหนึ่งในความท้าทายระดับโลกที่ส่งผลกระทบในทุกๆ ด้าน ครอบคลุมทั้งเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และผู้คน การนำนโยบายมาสู่การดำเนินงานอย่างเป็นรูปธรรมเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกคนควรตระหนัก และเข้ามามีส่วนร่วมเพื่อแก้ไขหรือลดผลกระทบตลอดห่วงโซ่คุณค่า พร้อมร่วมผลักดันการดำเนินงานไปสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ เพื่อความยั่งยืนของอุตสาหกรรมต่อไปในอนาคต” นายวิน กล่าว

SSI Announces Its Climate Change Policy for the Group of Companies, Striving to Pioneer and Innovate in Sustainable Greenhouse Gas Management

Sahaviriya Steel Industries PLC announces its climate change policy for the group of companies, outlining specific targets, strategies, and operational guidelines. This initiative aims to achieve the group’s carbon neutrality and net zero emissions, aligned with national policies and environmental agreements on climate change. The company is dedicated to advancing steel products, innovations, technologies, and integrating clean energy, all in pursuit of securing a sustainable future for the steel industry.

Mr. Win Viriyaprapaikit, Group CEO of Sahaviriya Steel Industries Public Company Limited (SSI) said that SSI, as a leader in the country’s steel industry, recognizes the significance of addressing climate change to achieve carbon neutrality. It’s a global challenge impacting the economy, society, and the environment, both in the present and in the future. Consequently, the company is determined to conduct business while considering climate care in line with the country’s policies and international environmental agreements regarding climate change. In response, the SSI Group has announced its climate change policy with the objective of effectively managing climate change within the group through the following ways:

  1. Setting targets, strategies, and operational guidelines to achieve carbon neutrality and net-zero greenhouse gas emissions for the group of companies, in line with the country’s climate policies and global climate agreements.
  2. Generating the Carbon Footprint for Organization (CFO) report aims to drive effective management in reduction of greenhouse gas emissions across the group of companies.
  3. Promoting energy usage, maximizing natural resource efficiency, fostering research, enhancing innovations and technologies, and tracking policy initiatives, carbon markets, and financial support needed for sustained reduction of greenhouse gas emissions and adaptation to climate change impacts.
  4. Raising awareness and encouraging participation in emissions reduction from operations among employees, customers, business partners, and stakeholders, while also facilitating knowledge exchange within the organization and beyond.

Furthermore, SSI has implemented initiatives to demonstrate its steadfast commitment and dedication to reducing greenhouse gas emissions. 1) In terms of products, SSI has set a goal to upgrade 11 steel products, which currently meet the ISO14021 (Type II environmental labeling), to achieve ECO PLUS certification by The Department of Environmental Quality Promotion (DEQP) and The Federation of Thai Industries (FTI) by 2025. Additionally, the company is striving to develop 9 steel products to acquire an Environmental Product Declaration (EPD).  2) In terms of circular economy, SSI ensures the efficient utilization of all resources; recycling and reusing 100% of water resources and production waste. 3) In terms of clean energy, SSI explores the utilization of renewable energy sources, including solar energy, biomass, and biogas, with a focus on leveraging local community potential and fostering their economies. The goal is to entirely replace fossil fuel usage with renewable energy sources. Additionally, SSI is researching clean energy production technologies, such as Green Hydrogen, which emits no CO2 into the atmosphere. Furthermore, the company plays a crucial role in advancing the entire hydrogen energy value chain.

Mr. Win concluded, “Climate change is one of the world’s greatest challenges, impacting us in every aspect, including the economy, society, environment, and people. It is essential to turn policy into action, with everyone being aware and involved in mitigating its impact throughout the value chain, ultimately striving for carbon neutrality and net-zero emissions to ensure a sustainable future for the industry.”