ผลิตภัณฑ์เหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วน (Hot Rolled Coil) ของบริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน ) หรือ เอสเอสไอ ได้รับการรับรองการขึ้นทะเบียนสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมตามข้อกำหนดของฉลาก ECO PLUS ซึ่ง “เป็นฉลาก ประเภทรับรองตนเอง(Self-declared environmental claims)” หัวข้อการนำพลังงานกลับมาใช้ใหม่ (Recovered energy) จาก โครงการส่งเสริมสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแบบรับรองตนเอง (ECO PLUS)
โครงการ ECO PLUS ดำเนินการโดยกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เพื่อส่งเสริมเครือข่ายวิสาหกิจชุมชน และผู้ประกอบการผลิตสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมทั้งผลักดันและสนับสนุนการพัฒนาแนวทางการแสดงความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของสินค้าและบริการและจัดทำระบบรับรองการรายงานการเปิดเผยข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อมด้วยตนเองตามระบบมาตรฐาน ISO 14021Environmental labels and declarations – Self-declared environmental claims จนเกิดเป็นระบบขึ้นทะเบียนฉลาก ECO PLUS ดำเนินการขึ้นทะเบียนให้กับสินค้าขององค์กร หรือผู้ประกอบการที่ต้องการบ่งบอกความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือแสดงคุณค่าทางสิ่งแวดล้อมของผลิตภัณฑ์ด้วยตนเอง (Self-declared environmental claims) โดยฉลากECO PLUS ที่ได้รับการรับรองสามารถติดบนบรรจุภัณฑ์เพื่อแสดงถึงการแสดงข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อมที่ได้รับการขึ้นทะเบียนมีอายุฉลาก 3 ปี
ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์ของเอสเอสไอที่ได้รับการรับรองฉลาก ECO PLUS ประกอบด้วย
เหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วน (Hot Rolled Coil) ความหนา 1.40 มิลลิเมตร
เหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วน (Hot Rolled Coil) ความหนา 1.80 มิลลิเมตร
เหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วน (Hot Rolled Coil) ความหนา 1.95 มิลลิเมตร
เหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วน (Hot Rolled Coil) ความหนา 2.10 มิลลิเมตร
เหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วน (Hot Rolled Coil) ความหนา 2.90 มิลลิเมตร
ก่อนหน้านี้ผลิตภัณฑ์ของเอสเอสไอได้รับการรับรองฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์จากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ อบก.มาแล้ว 3 ชนิด ประกอบด้วย 1) เหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วน 2) เหล็กท่อเหลี่ยม และ 3)เหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วน ประเภทล้างผิวและเคลือบน้ำมัน
เอสเอสไอมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์ พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการให้สอดคล้องกับแนวทางการบริโภคในปัจจุบัน เพื่อสร้างความแข็งแกร่งสำหรับการแข่งขันในตลาด พร้อมขับเคลื่อนการผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืนสู่การเป็นสังคมคาร์บอนต่ำต่อไปในอนาคต