SSI has achieved a production record at 286,607 tons in March and a shipment record at 679,049 tons in Q1, the highest among steel companies in Thailand. Sees initial success under a new 3-year business plan and gains momentum from the recovery in downstream industries and customer confidence.
Sahaviriya Steel Industries Plc. or “SSI” reported the quarterly production 1/2010 that Hot Strip Mill (HSM) at Bangsaphan hit a new record of monthly production at 286,607 tons in March 2010, beating its previous record of 263,162 tons in June 2006 – a top production record among Thai steel companies. It also hit a new record of quarterly production at 689,831 tons in Q1/2010, the previous highest quarterly production record was at 655,565 tons in Q4/2006.

In March 2010, it achieved 247,238 tons shipment. Formerly, the Company made a new record of monthly shipment at 254,365 tons in February 2010. The company also attained a new record of quarterly shipment at 679,049 tons in Q1/2010, again a top shipment record among Thai steel companies, beating its previous record of 556,068 tons in Q2/2006, and is currently on track to meet its annual production and sales target of 2.7 million tons this year.

Mr. Win Viriyaprapaikit, President of Sahaviriya Steel Industries PLC (“SSI”) said, “This is a fruitful result and it marks a good start for our new business plan for 2010-2012. These achievements giveus the confidence to embark forward under the new vision and mission of ‘Innovate premium value steel products and services for customer; generate consistent profit and sustainable value for stakeholders’. We envision our organization’s sole purpose to be the innovation of steel products and services that adds value to our customers and consumers.”
“These achievements are attributed to the recovery of down-stream industries such as automobile , parts, and construction as well as to the customers’ trust in our products and services. Furthermore, SSI had been successful in various initiatives such as the procurement of stable slab supply from new sources with competitive cost, and streamlining the distribution process and speeding up delivery time to improve service turnaround time. The company also significantly raised productivity and reduced yield loss; and made progress in energy efficiency. Despite the downturn, the company remained committed in technology and R&D, and continued to invest in our people who are our biggest asset. The most important thing is the strong determination and dedication of all employees to target and achieve this success together.”

สถิติใหม่SSI มีนาคมผลิตทะลุ 286,607 ตัน

ยอดส่งมอบไตรมาสแรกสูงสุด 679,049 ตัน

แผนธุรกิจใหม่เอสเอสไอสดใส ล่าสุดประสบความสำเร็จด้านผลิตและการขาย โรงงานทำสถิติใหม่ยอดผลิตเดือนมีนาคม 286,607 ตัน สูงสุดของประเทศไทย ในขณะที่ยอดส่งมอบเหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วนไตรมาสแรกทะลุ 679,049 ตัน เผยอุตสาหกรรมต่อเนื่องฟื้นตัว ลูกค้าไว้วางใจซื้อเพิ่ม

ฝ่ายการผลิต โรงงานเหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วน ( HSM ) อำเภอบางสะพาน บริษัทสหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) หรือเอสเอสไอ เปิดเผยรายงานการผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วนประจำเดือนมีนาคม 2553 ว่า บริษัทสามารถผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนได้ทั้งสิ้น 286,607 ตัน นับเป็นสถิติสูงสุดของบริษัทเหล็กของคนไทย จากสถิติปริมาณการผลิตสูงสุด 263,162 ตัน ต่อเดือนเมื่อเดือน มิถุนายน ปี 2549 และ บริษัทมียอดการผลิตในไตรมาสแรก 2553 ทั้งสิ้น 689,831 ตันนับเป็นยอดผลิตรายไตรมาสสูงสูดของบริษัทและของบริษัทเหล็กในประเทศไทยเช่นเดียวกัน จากสถิติยอดการผลิตสูงสุด 655,565 ตันในไตรมาสที่ 4 ปี 2552

ในส่วนของการส่งมอบผลิตภัณฑ์เหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วน เดือนมีนาคม 2553 บริษัทส่งมอบผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้าทั้งสิ้น 247,238 ตัน จากเดิมที่บริษัททำลายสถิติส่งมอบผลิตภัณฑ์สูงสุดในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาจำนวนทั้งสิ้น 254,365 ตัน และรวมในไตรมาสแรก 2553 บริษัทมีปริมาณส่งมอบผลิตภัณฑ์ 679,049 ตัน ซึ่งเป็นปริมาณการส่งมอบผลิตภัณฑ์รายไตรมาสสูงสูดของบริษัทและของบริษัทเหล็กในประเทศไทยเช่นเดียวกัน จากสถิติปริมาณการส่งมอบสูงสุด 556,068 ตันในไตรมาสที่ 2 ปี 2549 ทั้งนี้ ในปี 2553 เอสเอสไอตั้งเป้าหมายการผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนและส่งมอบให้กับลูกค้า 2.7 ล้านตัน

นายวิน วิริยประไพกิจ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.สหวิริยาสตีลอินดัสตรี หรือ เอสเอสไอ เปิดเผยว่า นับเป็นผลสำเร็จและการเริ่มต้นที่ดีสำหรับแผนธุรกิจของบริษัทฉบับใหม่สำหรับปี 2553 – 2555 ที่บริษัทประสบความสำเร็จที่ในเชิงการผลิต และการส่งมอบผลิตภัณฑ์ ซึ่งทำให้บริษัทมั่นใจว่าในแนวทางการดำเนินงานตามวิสัยทัศน์และพันธกิจใหม่ ได้แก่ “สร้างสรรค์นวัตกรรมผลิตภัณฑ์เหล็กและบริการที่มีมูลค่าเพิ่มกับลูกค้า สร้างกำไรสม่ำเสมอ สร้างผลตอบแทนแก่ผู้มีส่วนได้เสียอย่างยั่งยืน” ซึ่งมุ่งเน้นการเติบโตตามแนวทางยุทธศาสตร์เหล็กแผ่นชั้นคุณภาพพิเศษ ด้วยการคิดค้นผลิตภัณฑ์และบริการที่มีมูลค่าเพิ่ม เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า

“การประสบความสำเร็จดังกล่าวนอกจากจะเป็นผลมาจากการอัตราการเติบโตของอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง อาทิ อุตสาหกรรมรถยนต์ ที่มีปริมาณการผลิตมากขึ้น ความไว้วางใจของลูกค้าที่มีในผลิตภัณฑ์และบริการบริษัทแล้ว เอสเอสไอยังได้พัฒนาปัจจัยเกื้อหนุนหลายประการ ทั้งความสามารถในการจัดซื้อวัตถุดิบคุณภาพสูงจากแหล่งใหม่ที่มีต้นทุนแข่งขันได้ในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการ ปรับปรุงประสิทธิภาพของกระบวนการจำหน่ายเพื่อจัดส่งสินค้าถึงมือลูกค้าได้รวดเร็วยิ่งขึ้นทำให้บริษัทสามารถเพิ่มปริมาณการขายเหล็กแผ่นชั้นคุณภาพสูงได้มากขึ้นและมีอัตรากำไรสูงขึ้นทั้งภายในประเทศ และ ปริมาณการส่งออก นอกจากนี้ ยังได้ปรับปรุงพัฒนากระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เพื่อเพิ่มอัตราการผลิต ลดส่วนสูญเสีย การดูแลบำรุงรักษาเครื่องจักรอย่างดี และลดการใช้พลังงาน รวมถึงการลงทุนอย่างต่อเนื่องในการปรับปรุงเทคโนโลยี ผลิตบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ และสนับสนุนการวิจัยและพัฒนา เพื่อให้ผลิตภัณฑ์เหล็กและบริการของบริษัทมีคุณภาพสูงขึ้น ในปริมาณที่มากขึ้นและมีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้ามากขึ้น ประการสำคัญก็คือความมุ่งมั่น ทุ่มเทของพนักงานทุกคนในการปฏิบัติเพื่อให้บริษัทประสบความสำเร็จร่วมกัน”

Leave a Reply