ดึงผู้ค้าเหล็กโลก VANOMET AGร่วมทุนเสริมแกร่ง

          เอสเอสไอจัดโครงสร้างทางการเงินแบบเบ็ดเสร็จ (Comprehensive Financial Plan) ยกเลิกสัญญารักษาสถานะ (Standstill Agreement) และเปลี่ยนสถานะวงเงิน เป็นเงินกู้ยืมระยะยาว เพิ่มทุน 413 ล้านเหรียญสหรัฐ พร้อมเซ็นสัญญา VANOMET AG ผู้ค้าเหล็กโลกรายสำคัญ เข้าร่วมลงทุนในวงเงินไม่เกิน 170 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนที่เหลือจำหน่ายผู้ถือหุ้นเดิมและนักลงทุนเฉพาะเจาะลง เพื่อสร้างความแข็งแกร่งด้านเงินทุน ส่งผลอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) ลดลงจาก 3.1 เหลือ1.6 เท่า    พร้อมรองรับวงจรอุตสาหกรรมเหล็กโลกอย่างมั่นคง และโอกาสขยายธุรกิจไปยังตลาดใหม่ๆทั่วโลก  ส่วนภาวะอุตสาหกรรมราคาเหล็กและวัตถุดิบซึ่งปรับตัวลงมาในไตรมาส 2 เริ่มจะปรับฐานและทรงตัวในไตรมาส3  ซึ่งจะทำให้ค่าการถลุงและค่าการรีดกลับมาปกติ
         
นายวิน วิริยประไพกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) หรือ เอสเอสไอ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2555 ได้มีลงนามในบันทึกข้อตกลงการเข้าร่วมลงทุนของ Vanomet (Memorandum of Understanding for Vanomet Strategic Investment) ระหว่างบริษัทฯ SSI UK และ Vanomet Holding AG (“Vanomet”) และกลุ่มสถาบันการเงินผู้สนับสนุนทางการเงินระยะยาวในการเข้าร่วมลงทุนของ Vanomet Holding AG ในบริษัทฯ และ SSI UK
          นอกจากนี้บริษัทฯ ได้เข้าลงนามใน “บันทึกข้อตกลงการให้ความสนับสนุนทางการเงิน” (Memorandum of Understanding for Financial Backing)  ระหว่างบริษัทฯ กลุ่มสถาบันการเงินผู้สนับสนุนเงินกู้ยืมเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนจำนวน 3 ราย (เจ้าหนี้ระยะสั้น)  และกลุ่มสถาบันการเงินผู้สนับสนุนเงินกู้ยืมระยะยาว โดย เปลี่ยนสถานะวงเงินกู้ยืมของเจ้าหนี้ระยะสั้นเป็นเงินกู้ยืมระยะยาวอายุ 3 ปี แบบทยอยชำระคืนเงินต้น     
          นายวินกล่าวว่า การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามแนวทางการจัดโครงสร้างทางการเงินแบบเบ็ดเสร็จ (Comprehensive Financial Plan) เพื่อให้บริษัทฯและบริษัทย่อยมีความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว ซึ่งประกอบด้วยแผนการระดมทุนในส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มเติม และการบริหารจัดการเงื่อนไขเงินกู้ยืม ประกอบด้วย 1. Vanomet  ซึ่งเป็นผู้ค้าเหล็กและมีความชำนาญด้านเหล็กรายสำคัญของโลก มียอดขายปีละ 4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯตกลงที่จะเข้าร่วมลงทุนในวงเงินรวมไม่เกิน 170 ล้านเหรียญสหรัฐ ในรูปแบบของการให้วงเงินกู้ระยะสั้นสำหรับ SSI UK จำนวน 100 ล้านเหรียญสหรัฐ และวงเงินกู้ยืมเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับ SSI UK จำนวน 70 ล้านเหรียญสหรัฐ  และจะมีการเปลี่ยนวงเงินกู้ระยะสั้นนี้เป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนในบริษัทฯ ทั้งจำนวน และในส่วนของวงเงินกู้ยืมเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับ SSI UK จำนวน 70 ล้านเหรียญสหรัฐนั้น Vanomet  สามารถเลือกได้ว่าจะเปลี่ยนเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนในบริษัททั้งหมดหรือบางส่วน 2. บริษัทฯ ตกลงที่จะเปลี่ยนค่าสินค้าเหล็กแท่งแบนล่วงหน้าที่บริษัทฯ จ่ายให้แก่ SSI UK จำนวน 125 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนใน SSI UK เพื่อสร้างความแข็งแกร่งทางโครงสร้างเงินทุนของบริษัทฯ
          3.บริษัทฯ และกลุ่มสถาบันการเงินตกลงยกเลิกสัญญารักษาสถานะ (Standstill Agreement) โดยเปลี่ยนสถานะวงเงินกู้จากเงินกู้ยืมเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน เป็นเงินกู้ยืมระยะยาวอายุ 3 ปี แบบทยอยชำระคืนเงินต้น เพื่อให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม และการดำเนินธุรกิจในระยะยาว 4. การลดสัดส่วนหนี้สินต่อทุนโดยซื้อคืนหุ้นกู้แปลงสภาพคงค้างของบริษัทฯจำนวนประมาณ 2,097 ล้านบาท และชำระคืนเงินกู้ยืมด้อยสิทธิพร้อมดอกเบี้ยจำนวนไม่เกิน 33 ล้านเหรียญสหรัฐ และ การเพิ่มทุนโดยการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพื่อระดมทุนจำนวนไม่เกิน 413 ล้านเหรียญสหรัฐ
          นายวิน กล่าวว่า บริษัทฯจะเสนอเรื่องต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อขออนุมัติเพิ่มทุน โดยบริษัทฯจะนำเงินที่ได้ไป 1. เพิ่มทุนใน SSI UK จำนวนไม่เกิน 170ล้านเหรียญสหรัฐ  SSI UK จะนำเงินที่ได้ไปชำระคืนเงินกู้ระยะสั้นและเงินกู้ยืมเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน ทั้งหมดหรือบางส่วนที่ Vanomet  เลือกที่จะเปลี่ยนเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนตามบันทึกข้อตกลงการร่วมทุน 2. นำไปใช้ซื้อคืนหุ้นกู้แปลงสภาพคงค้างของบริษัทฯในวงเงินไม่เกิน 1,800 ล้านบาท 3.นำไปชำระคืนเงินกู้ยืมด้อยสิทธิพร้อมดอกเบี้ยจำนวนไม่เกิน  33 ล้านเหรียญสหรัฐ และ 4. ที่เหลือนำไปใช้เป็นเงินทุนในการดำเนินธุรกิจ ลดหนี้ และ/หรือหมุนเวียนในบริษัทฯ และ SSI UK
          “การจัดโครงสร้างทางการเงินครั้งนี้รวมทั้งการเข้ามาร่วมทุนของ Vanomet จะทำให้โครงสร้างเงินทุนของเอส  เอสไอมีความแข็งแกร่งเพียงพอพร้อมรองรับวงจรอุตสาหกรรมเหล็กโลกได้อย่างมั่นคง อัตราหนี้สินต่อทุน (D/E)ลดลงจากประมาณ 3.1 เป็น ประมาณ 1.6   มีความยืดหยุ่นทางการเงิน เงินทุนหมุนเวียนเพิ่มมากขึ้นในขณะที่ต้นทุนทางการเงินลดลง และสร้างโอกาสในการดำเนินธุรกิจ ประการสำคัญ คือการส่งเสริมตำแหน่งทางการตลาดผ่านความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่มีกับ Vanomet มายาวนาน รวมถึงขยายตลาดไปยังตลาดใหม่ๆทั่วโลก”
          “ผมขอขอบคุณคณะผู้บริหาร พนักงานกลุ่มเอสเอสไอทุกคนทั้งที่ประเทศไทยและอังกฤษ รวมถึงสถาบันการเงินที่ให้การสนับสนุน และ Vanomet ที่ให้ความเชื่อมั่นร่วมลงทุนพัฒนาอุตสาหกรรมเหล็กเพื่ออนาคตทางธุรกิจที่ดีร่วมกัน” นายวินกล่าว
           Mr. Ruedi Mathis  CEO Vanomet Holding AG กล่าวว่า มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมธุรกิจกับเอสเอสไอ ที่เป็นผู้ผลิตเหล็กแผ่นครบวงจรรายใหญ่ที่สุดในอาเซียนและมีประสบการณ์ ความมุ่งมั่นในการบุกเบิกธุรกิจอุตสาหกรรมเหล็กมายาวนานของไทย เมื่อผนวกด้วยความเชี่ยวชาญประสบการณ์ของ Vanomet ในด้านการค้าเหล็กทั้งการจัดหาวัตถุดิบ การขาย และการเป็นที่ปรึกษา จะส่งเสริมให้ธุรกิจของเอสเอสไอเติบโตและมั่นคงต่อไป
          สำหรับผลการดำเนินงานของเอสเอสไอไตรมาสที่ 2/55 มีผลขาดทุนสุทธิ 5,022 ล้านบาท เทียบกับขาดทุนสุทธิ 2,841 ล้านบาท ในไตรมาส 1/55 และขาดทุนสุทธิ 1,053 ล้านบาท ในไตรมาส 2/54 ผลประกอบการเป็นไปตามการคาดการณ์ของบริษัทในสภาวะอุตสาหกรรมเหล็กที่ไม่แน่นอน แต่ต่ำกว่าที่ตลาดคาด เพราะผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจยุโรป ราคาเหล็กลดลง ค่าใช้จ่ายของธุรกิจโรงถลุงที่เกิดจากการลงทุนเพิ่มและการเลื่อนกำหนดผลิต และ ธุรกิจเหล็กแผ่นรีดร้อนตั้งสำรองค่าเผื่อการลดมูลค่าของสินค้าคงเหลือและตั้งสำรองจากภาระผูกพันตามสัญญาซื้อวัตถุดิบเป็นจำนวนรวม 451 ล้านบาท อย่างไรก็ตามธุรกิจเหล็กแผ่นรีดร้อนรักษาระดับการขายได้ในระดับปกติ แม้จะประสบปัญหาทุ่มตลาดสินค้าเหล็กแผ่นรีดร้อนเจือโบรอนและโครเมียม HRC Rolling Margin ดีขึ้นเป็นร้อยละ 15.8  ส่วนธุรกิจโรงถลุงเหล็กที่ประเทศอังกฤษ เริ่มผลิต 18 เมษายน 2555 และส่งเหล็กแท่งแบนให้โรงงานเหล็กแผ่นรีดร้อนบางสะพานแล้ว 134,000 ตัน ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2555
          นายวิน วิริยประไพกิจ กล่าวว่า “เศรษฐกิจโลกและภาวะตลาดเหล็กโลกผันผวนมากในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา ทำให้ราคาเหล็กและวัตถุดิบต่างๆซึ่งปรับราคาขึ้นมาอย่างต่อเนื่องจากเดือนมกราคม กลับลดลงอย่างรวดเร็วตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคมจนถึงปัจจุบันเช่นเดียวกับราคานํ้ามันดิบ ถึงแม้ว่าธุรกิจเหล็กแผ่นรีดร้อนของบริษัทฯจะกลับมามีค่าการรีดที่ดีขึ้นและมีกำไรขั้นต้นที่ดี และธุรกิจโรงถลุงเหล็กจะสามารถเริ่มผลิตได้เป็นผลสำเร็จตั้งแต่กลางเดือนเมษายนและสามารถมีผลผลิตที่น่าพอใจใน 4 เดือนที่ผ่านมาถึงจะยังเพิ่มผลผลิตไปยังไม่เกินจุดคุ้มทุน ทั้ง 2 ธุรกิจกลับต้องมาตั้งสำรองค่าเผื่อการลดมูลค่าของสินค้าคงเหลือ ณ ปลายไตรมาสทำให้ผลประกอบการไตรมาสนี้ไม่สะท้อนให้เห็นถึงธุรกิจหลักของบริษัทที่มีแนวโน้มดีขึ้นเรื่อยๆ
           “สิ่งที่สำคัญสำหรับบริษัทฯในครึ่งปีหลังคือ การทำกำไรและการสร้างความแข็งแกร่งทางการเงิน ซึ่ง 1) แนวโน้มยอดขายของกลุ่มในปีนี้น่าจะเข้าเป้าหมาย 60,000 ล้านบาทที่ตั้งไว้ สืบเนื่องจากการมีผลิตเหล็กแท่งแบนป้อนเป็นวัตถุดิบให้กับตนเองได้อย่างสมํ่าเสมอ 2) ราคาเหล็กและวัตถุดิบซึ่งปรับตัวลงมา เริ่มจะปรับฐานและทรงตัว ซึ่งจะทำให้ค่าการถลุงและค่าการรีดกลับมาปกติ 3) แผนการเพิ่มทุนของบริษัทฯที่จะขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับพันธมิตรทางธุรกิจ และการเน้นการบริหารสภาพคล่อง จะทำให้บริษัทฯมีหนี้สินลดลงและมีเงินทุนหมุนเวียนที่เพียงพอ” นายวินกล่าว

 เกี่ยวกับ Vanomet Holding AG (“Vanomet”)
          
Vanomet เป็นหนึ่งในผู้ค้าเหล็กอิสระรายใหญ่ที่สุดรายหนึ่งในโลก โดยในปี 2555 มีรายได้รวมประมาณ 4,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ Vanomet ได้จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทภายใต้กฎหมายของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในปี 2534 โดยนาย Ruedi Mathis ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเหล็กที่มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมมาอย่างยาวนาน Vanomet เป็นผู้ค้าเหล็กที่ให้บริการอย่างครบวงจรตั้งแต่การให้คำปรึกษา การให้การสนับสนุนทางการเงิน การทำการตลาด การให้บริการทรัสต์ และการบริหารจัดการการขนส่งครบวงจร ซึ่งบริการต่างๆ สามารถปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละรายได้ ปัจจุบัน Vanomet มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมือง ซูค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ บริหารและจัดการการค้าเหล็กและผลิตภัณฑ์โลหะผ่านเครือข่ายสำนักงานและตัวแทนในประเทศต่างๆ ทั่วโลก โดย Vanomet ประกอบด้วยบริษัทย่อยซึ่งถือหุ้นทั้งหมดโดย Vanomet จำนวน 5 บริษัท ได้แก่ Vanomet AG, Vanomet Finance AG, Vanomet International AG, Vanomet Asia AG, and Atlantic Steel AG. ผู้สนใจสามารถเยี่ยมชมและหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.vanomet.com

SSI launches “Comprehensive Financial Plan”, terminates Standstill, join forces with Vanomet

          SSI launches “Comprehensive Financial Plan” with the support of its banks, terminates the Standstill Agreement and converts short term working capital loan into amortizing term loan, and capital increase up to US$ 413 million to strengthen capital structure. D/E ratio to reduce from 3.1 to 1.6,  to ride through steel cycle trough and expand the business to new markets.   Signed an MOU with  Vanomet, a world leading independent steel trading company, who will invest up to US$ 170 million.  Remaining amount will be offered via Rights Offering (RO) and Private Placement (PP) at 0.68 baht per share.  Steel and raw materials price is stabilitizing in Q3 after a drop in Q2, while HRC Spread is returning to normal.
          
Mr. Win Viriyaprapaikit, Group CEO and President of Sahaviriya Steel Industries Public Company Limited (SSI), reveals that on 8 August 2012, SSI entered into the “Memorandum of Understanding for Vanomet Strategic Investment” among SSI UK, Vanomet Holding AG (“Vanomet”) and its Senior Lenders to preliminarily agree on terms and conditions for a strategic investment into SSI UK.  In addition, on 14 August 2012, the Company signed the “Memorandum of Understanding for Financial Backing” with 3 financial institutions (Short-Term Lenders) and its Senior Lenders to preliminarily agree to convert their working capital loan into a 3-year amortizing term loan.  These two MOUs constitute the core part of the Comprehensive Financial Plan.
           Mr. Win states that, according to the Comprehensive Financial Plan, the transaction will enable SSI and its subsidiaries to maintain short-term and long-term financial stability. The plan includes the recapitalization of the business and amendment of the existing financing terms.  The main features are:
          1)       Capital increase for an amount up to US$ 413 million by new shares issuance, to be allotted via Private Placements and Rights Offerings in 4 tranches at 0.68 baht per share.
                      i.   Private Placement #1 of up to 8,000 million shares to Vanomet Holding AG.
                     ii.   Private Placement #2 of up to 5,300 million shares to strategic and other investors.
                    iii.   Private Placement #3 of up to 4,300 million shares to Sahaviriya Inter Steel Holding.
                    iv.   Rights Offering of up to 1,834 million shares to the existing shareholders.
           2)       Vanomet, a reputable international steel trading firm with annual turnover of US$ 4 billion, agrees upon the total investment of US$ 170 million, consisting of US$ 100 million short-term loan and US$ 70 million revolving working capital facilities, for SSI UK, whereby Vanomet will convert the whole amount of this US$ 100 mm short term loan into SSI’s new equity and at its discretion to convert part or all of US$ 70 million revolving working capital loan into SSI’s new equity.
          3)       The Company and its lenders agree to terminate the Standstill Agreement and convert their short-term working capital loan into 3-year amortizing term loan.
          4)       Reduction of debt by buying back THB 2,097 million convertible debentures, repaying principal and interest on subordinated bridging loan for the amount not exceeding US$ 33 million.
           5)       The Company agrees to convert US$ 125 million of slab advance payment paid to SSI UK into new equity of SSI UK.
          Mr. Win says that the Company will propose to seek necessary approvals from an extraordinary shareholders’ meeting in October.
          “We are very pleased to announce this Plan and very much relieved by the termination of the Standstill Agreement.  The Standstill Agreement had caused us huge reputational damage as it was misunderstood to be a debt moratarium on the Company’s part.   It was not.  We had been current in all our debt service and the purpose of the agreement was to allow the Company and our banks the time to agree on the way forward.  We have now reached a consensus.  This recapitalization and loan amendment will give us the capital structure to ride through this current steel cycle trough and to be in the position to capture any business opportunity that may arise thereafter.  Our D/E ratio will reduce from 3.1 to 1.6, and our financial cost will also significantly reduce.  This plan will enhance our market position in Thailand where the steel demand outlook is uniquely strong, compared to other regions in the world.”
           For Q2/2012 Results, the Company and its subsidiaries reported net loss of Baht 5,022 million in Q2/2012, comparing to net loss of Baht 2,841 million in Q1/2012 and Baht 1,053 million in Q2/2011 respectively.  The operational performance were in line with the company’s expectation, but the financial result was a result of the adverse impact of financial crisis in Europe, which caused a large drop in steel and raw material prices, and the higher conversion costs during the start-up period of the Iron and Steel Making Business.  The Company also set up additional provision on loss from diminution in value of inventories and on loss under onerous contract of Baht 451million. HRC Business maintained normal HRC sales volume in spite of the ongoing market dumping of boron-added flat products, and HRC Rolling Margin recovered to 15.8%. The Iron and Steel Making Business started to produce slabs from mid-April, and smoothly produced 477 k tons up to the end of June. In this quarter, the Company received slab from SSI UK totaling approx. 134 k tons.
            Mr. Win addes that “our HRC Business’s sales volume and HRC Spread had normalized.  Our Iron and Steel Making Business had successfully started up steel production in mid-April and is ramping up production towards the break-even point. But the world economy and steel market in Q2/2012 had been very unstable, causing a sharp drop in steel and raw material prices from May.  To be prudent, both businesses need set for stock loss provision in the end of the quarter.  As a consequence, the financial result of this quarter did not reflect the achievement and improvement of our main businesses.”
          “The most important things for the Company in the second half of the year is to return to profit and to strengthen our balance sheet.   There are 3 key drivers.  One, we are on plan to achieve record revenue Bt. 60,000 million this year, thanks to our self-sufficiency in raw material supply.  Two, steel and raw material prices are bottoming out and starting to stabilize, which will bring our margins back to normal. Three, the Comprehensive Financial Plan which will strengthen our balance sheet and provide us with sufficient working capital for the business expansion,” Mr. Win added.

About Vanomet Holding AG (“Vanomet”)
         
Vanomet is one of the world’s largest independent steel trading companies with turnover of approximately USD 4,000 mm in 2012. Vanomet, registered under Swiss law, was founded in 1991 by Ruedi Mathis, a steel specialist with many years of experience in the industry, providing a full range of services tailored to specific clients’ needs including consulting, financing, marketing, trust services, and logistics. Currently, Vanomet is a diversified international trading company with its head office in Zug, Switzerland handling steel products and non-ferrous metals through a large network of offices and agencies throughout the world. Vanomet consists of five wholly-owned subsidiaries which are Vanomet AG, Vanomet Finance AG, Vanomet International AG, Vanomet Asia AG, and Atlantic Steel AG. Please visit Vanomet Holding AG Web site at www.vanomet.com for more information.

Leave a Reply