ISIT, SSI and steel operators co-organized “Thailand Steel House Contest 2012: Greenovation: Less is more”to win the Royal Trophies from HRH Princess Maha Chakri Siridhorn and awards with a total value of Bt. 1 million. ISIT confirmed the contest can attract distinctive points of steel to be applied with Green Innovation to help save energy and manage internal resources, in line with “Economic sufficiency,” while SSI hopes to enhance steel houses to international level, creating an educational community for all stakeholders. ISIT aimed at arranging roadshows in 25 universities around the country and inviting professionals to join in.
         
On 24 August 2012, at Plenary Hall, Sirikit National Convention Center, Mom Rachawong Pongsawat Sawasdiwat, Minister of Industry, as a guest of honor, presided over the press conference of “Thailand Steel House Contest 2012: Greenovation: Less is more.” to win the Royal Trophies from HRH Princess Maha Chakri Siridhorn and awards with total value of Bt. 1 million. The contest was a collaboration between Iron and Steel Institute of Thailand (ISIT), Sahaviriya Steel Industries Plc. (SSI), steel companies including Siam Yamato Steel Co., Ltd. and Pacific Pipe Public Co., Ltd.
          The Minister of Industry revealed about the third Thailand Steel House Contest that the contest is a project, encouraging the usage of steel as it is an important material that boost the country’s microeconomics and macroeconomics by supporting creative ideas of using steel in real estate industry for architects and engineers in both education and profession circles and supporting Green Innovation which concentrate on energy saving and natural resource preserving.
          Dr. Wikrom Vajragupta, Director of Iron and Steel Institute of Thailand (ISIT), said about “Thailand Steel House Contest 2012” that this contest has sparked off the creative idea of bringing house designs from the contest to apply to future houses, as steel has the uniqueness and advantages such as the unique appearance, the light weight, comparing to concrete structure, steel can be applied to complex or easy-to-modify structure.
          “When applying the uniqueness of steel to Green Innovation, it will help save energy and efficiently manage resources in a building. This will sustain house designing, material choosing, house constructing and better living standard. It is also in line with “Economic Sufficiency,” which is an idea from H.M The King.” Dr. Wikrom said.
          Mr. Nava Chantanasurakhon, Vice President of Public Affairs and Social Responsibility Division of Sahaviriya Steel Industries Plc (SSI), said that “SSI sees the importance of promoting steel because steel is environmentally friendly. Therefore, SSI has supported the steel house contest which provides an opportunity for university students and professionals to share their house design ideas by using steel as the main components. This has created a platform for all stakeholders to share their ideas. Moreover, at present, there are many aspects, that are needed to be concerned, such as global warming, energy shortage and rushing living style of people who live in the city. By using steel for construction, the strong point of steel can respond to these concerned aspects. This is because steel can help energy saving, reduce construction period, be modified to many styles to fit in limited spaces and 100% reusable. Therefore, this is a contest, focusing on environmentally friendly house and sharing knowledge with all stakeholders.”
          In additional, on 8 August 2012, ISIT arranged the first roadshow to promote the contest at the Faculty of Architecture and Planning, Thammasat University, Rangsit campus. The activity received many good feedbacks from lecturers and students. Moreover, it aimed at providing information and attracting people to join the contest. The road show will be continuously run throughout August-September 2012 in 25 universities around the country.
          As for the conference “Thailand Steel House Contest 2012,” there was a panel discussion “Steel House…The Future House Trend.” The panelists joining the discussion included Mr. Prapakorn Watanyakul, Managing Director of Architects 49 Ltd. and Mr. Boonlert Hemvijitraphan, founder of Boon Design Co., Ltd. Moreover, there was a clarifying session about the contest from the judges in the afternoon. The enrolment period is from now until 2 November 2012. For more information, please contact Ms. Jittisa 02-712-4402-7 ext. 171 or visit www.isit.or.th and https://www.facebook.com/thailand%20steelhouse.contest#!/thailandsteelhouse.contest

       

สถาบันเหล็กฯ ร่วมมือ เอสเอสไอ และผู้ประกอบการในกลุ่มเหล็กจัด “Thailand Steel House Contest 2012: คำตอบที่เพียงพอในสังคมที่พอเพียง”ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพฯ
          สถาบันเหล็กฯ  ร่วมมือ เอสเอสไอ และผู้ประกอบการในกลุ่มเหล็กจัดโครงการ “ประกวดออกแบบบ้านเหล็กด้วยนวัตกรรมเขียว” ประจำปี 2555 (Thailand Steel House Contest 2012: Greenovation: Less is more) ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และเงินรางวัลรวมกว่า 1 ล้านบาท  ผู้อำนวยการสถาบันเหล็กฯ มั่นใจการจัดประกวดครั้งนี้ดึงจุดเด่นของเหล็กมาประยุกต์กับ Green Innovation ช่วยประหยัดพลังงานและบริหารจัดการทรัพยากรต่างๆ ภายในอาคารสอดคล้องแนวทาง “เศรษฐกิจพอเพียง” ผู้บริหารเอสเอสไอหวังยกระดับบ้านเหล็กได้มาตรฐานระดับประเทศ สร้างชุมชนที่มีการแลกเปลี่ยนการเรียนรู้ระหว่างผู้เกี่ยวข้อง ตั้งเป้าโรดโชว์ 25 มหาวิทยาลัยทั่วประเทศ พร้อมเชิญชวนมืออาชีพทั่วประเทศร่วมประกวด
          เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2555 ณ แพลนนารี่ ฮอลล์ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์ ม.ร.ว.พงษ์สวัสดิ์ สวัสดิวัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานในงานแถลงข่าวเปิดตัว โครงการประกวดออกแบบบ้านเหล็ก ด้วยนวัตกรรมเขียว  หรือ “Thailand Steel House Contest 2012 (Greenovation: Less is more)” ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และเงินรางวัลรวมกว่า 1,000,000 บาท ซึ่งจัดขึ้นโดยสถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย ร่วมกับ บริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน)หรือ เอสเอสไอ รวมทั้งผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมเหล็กอื่นๆ เช่น บริษัท เหล็กสยามยามาโตะ จำกัด และ บริษัท แปซิฟิกไพพ์ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงโครงการประกวดการออกแบบบ้านเหล็ก ซึ่งปีนี้จัดเป็นครั้งที่ 3
          รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมกล่าวว่า โครงการประกวดออกแบบบ้านเหล็กนี้เป็นโครงการที่ส่งเสริมการใช้เหล็กซึ่งเป็นวัสดุสำคัญที่ช่วยให้เศรษฐกิจของประเทศเจริญเติบโตตั้งแต่ระดับจุลภาคจนถึงมหภาค โดยอาศัยการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ในการใช้เหล็กในอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ของกลุ่มผู้ออกแบบและสร้างที่อยู่อาศัย ทั้งวงการศึกษาและวิชาชีพ และสนับสนุนให้มีการประยุกต์ใช้นวัตกรรมเขียว (Green Innovation) ที่ให้ความสำคัญเรื่องการประหยัดพลังงาน และอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ
          นายวิกรม วัชระคุปต์ ผู้อำนวยการสถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย กล่าวถึงโครงการ “Thailand  Steel House Contest 2012” ว่า  โครงการประกวดการออกแบบบ้านเหล็กครั้งนี้เป็นการจุดประกายให้มีการนำแบบบ้านหรืออาคารที่พักอาศัยที่เกิดจากความคิดสร้างสรรค์ของผู้เข้าประกวดนำไปเป็นต้นแบบประยุกต์ใช้ในอนาคตได้ เพราะความพิเศษในหลากหลายด้านของเหล็กทำให้วัสดุชนิดนี้ถูกนำมาประยุกต์ใช้กับงานด้านอุตสาหกรรมก่อสร้างในหลากหลายรูปแบบ โดยนำจุดเด่นซึ่งมีอยู่มากมายของวัสดุประเภทเหล็กมาใช้ ไม่ว่าจะเป็นจุดเด่นทางด้านรูปลักษณ์ภายนอกที่เป็นเอกลักษณ์ น้ำหนักที่เบาเมื่อเปรียบเทียบกับโครงสร้างคอนกรีต สามารถใช้ในโครงสร้างที่มีความสลับซับซ้อน หรือโครงสร้างที่ง่ายต่อการดัดแปลงและต่อเติม
          “เมื่อนำจุดเด่นของเหล็กมาประยุกต์ร่วมกับเทคโนโลยีเขียว (Green Innovation) ที่ช่วยประหยัดพลังงานและบริหารจัดการทรัพยากรต่างๆ ภายในอาคารให้มีประสิทธิภาพ จะช่วยส่งเสริมให้เกิดความยั่งยืนตั้งแต่การออกแบบบ้านพักอาศัย การเลือกวัสดุและวิธีการก่อสร้างบ้าน ตลอดจนคุณภาพชีวิตในการพักอาศัยภายในบ้าน และยังสอดคล้องกับแนวทาง “เศรษฐกิจพอเพียง” ตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอีกด้วย”
          นายนาวา จันทนสุรคน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายกิจการสาธารณะและความรับผิดชอบทางสังคม บริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) หรือเอสเอสไอ กล่าวว่า “เอสเอสไอเล็งเห็นถึงความสำคัญในการส่งเสริมเหล็กให้มีการใช้เหล็กอย่างแพร่หลาย เนื่องจากเหล็กเป็นวัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จึงสนับสนุนในการประกวดการออกแบบบ้านเหล็ก ด้วยเห็นว่าเป็นโครงการที่เปิดโอกาสให้ทั้งนิสิต นักศึกษา และผู้ประกอบการเกี่ยวกับงานออกแบบได้แสดงแนวความคิดในเรื่องการออกแบบบ้าน โดยใช้เหล็กเป็นวัสดุหลัก ทำให้มีเวทีให้ทุกฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความคิด  นอกจากนี้สภาวการณ์โลกที่เริ่มเปลี่ยนไปทั้งจากภาวะโลกร้อน ปัญหาด้านพลังงาน ข้อจำกัดของทรัพยากรธรรมชาติ และวิถีชีวิตที่เร่งรีบของคนเมือง ทำให้แนวความคิดของการนำเหล็กมาเป็นวัตถุดิบในการก่อสร้างจึงนับว่าสอดคล้องกับสภาพดังกล่าวเป็นอย่างดี เพราะจุดเด่นของเหล็ก หากนำมาใช้ในการก่อสร้างจะช่วยลดการใช้พลังงานและระยะเวลาในการปลูกสร้าง  นอกจากนี้เหล็กยังสามารถแปรรูปได้หลากหลายรูปแบบ จึงสามารถก่อสร้างบนพื้นที่ขนาดเล็กได้ และที่สำคัญเหล็กเป็นวัตถุดิบที่สามารถนำกลับมาใช้ได้ใหม่ได้เกือบ 100 % โครงการนี้จึงเป็นโครงการที่มุ่งเน้นสร้างสรรค์บ้านที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และเพิ่มองค์ความรู้ให้แก่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง”
          โดยเมื่อวันที่ 8 ส.ค. ที่ผ่านมา สถาบันเหล็กฯ ได้จัดกิจกรรมนำเสนอข้อมูล ให้กับคณาจารย์และนักศึกษา คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการผังเมือง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เป็นแห่งแรก เพื่อเชิญชวนเข้าร่วมส่งผลงานประกวด ซึ่งได้รับความสนใจจากนักศึกษาในการเข้าร่วมฟังกิจกรรมดังกล่าวเป็นจำนวนมาก โดยโครงการมีแผนออกเดินสายประชาสัมพันธ์ตั้งแต่เดือนสิงหาคม-กันยายน 2555 ไปยังมหาวิทยาลัย 25 แห่งทั่วประเทศ
          ทั้งนี้ภายในงานแถลงข่าวเปิดตัวโครงการ “Thailand Steel House Contest 2012” มีการเสวนาเรื่อง “บ้านเหล็ก… แนวโน้มการพัฒนาบ้านพักอาศัยในอนาคต” โดยคุณประภากร วทานยกุล กรรมการผู้จัดการบริษัท A49 Architect จำกัด และ คุณบุญเลิศ เหมวิจิตรพันธ์ บริษัท Boon Design  รวมทั้งมีการนำเสนอข้อมูลการประกวดออกแบบจากคณะกรรมการ ผู้สนใจสามารถสมัครตั้งแต่บัดนี้ จนถึงวันที่ 2 พ.ย. 2555 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ คุณจิตติสา 02-712-4402-7 ต่อ171 หรือที่ www.isit.or.th  และhttps://www.facebook.com/thailand%20steelhouse.contest#!/thailandsteelhouse. contest

Leave a Reply