SSI Teesside has started steel slab casting and produced the first slab on 18 April 2012 after Sahaviriya Steel Industries UK Ltd. (SSI UK), a subsidiary of Sahaviriya Steel Industries Public Company Limited (SSI), had started to blow hot air blast into its Redcar Blast Furnace on April 15, 2012, raw materials composed of iron ore and coke were loaded into the blast furnace and were ignited by the hot air blast at the temperature of 1,200 degree-Celsius until the hot metal came out. The hot metal then purified with appropriate quality was reached the steel plant for casting process to become the first steel slab.
During the first progress of steel slab producing, SSI UK will concentrate on safety and stability of slab manufacturing by aiming at 10,000 tonnes daily production. The Company expected to reach 2.2 million tones in 2012 and the slab production was targeted to increase to 3.6 million tonnes per year in 2012. Steel slab output from SSI Teesside will be partially targeted to serve demand in foreign market and sales volume in Thailand. This is good market timing as the global economic outlook is improving and steel industry is in an uptrend after passing the trough in Q4/2011 while Thai flat steel market is expected to grow by 7-8% per year for the next 10 years.
โรงงานเอสเอสทีไซด์ผลิตได้เหล็กแท่งแบนแท่งแรกแล้ว
การถลุงเหล็กและผลิตเหล็กกล้าโรงงานเอสเอสไอทีไซด์ เริ่มเข้าสู่กระบวนการหล่อจนได้เหล็กแท่งแบนแท่งแรกแล้วเมื่อ วันที่ 18 เมษายน 2555 หลังจาก บริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี ยูเค จำกัด หรือ “เอสเอสไอ ยูเค” บริษัทย่อยของบริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) หรือ “เอสเอสไอ” จุดเตาถลุงเหล็กเรดคาร์เมื่อวันที่ 15 เมษายน 2555 และเติมวัตถุดิบ อาทิ แร่เหล็กและถ่านโค้ก ให้เกิดการเผาไหม้โดยก๊าซร้อนที่อุณหภูมิ 1,200 องศาเซลเซียสจนได้น้ำเหล็กดิบลำเลียงมายังหน่วยผลิตเหล็กกล้าและทำการปรุงคุณภาพน้ำเหล็กบริสุทธิ์ให้ได้คุณภาพที่ต้องการแล้วผ่านการหล่อเหล็กให้เป็นเหล็กแท่งแบน
การผลิตเหล็กแท่งแบนในช่วงแรกนี้ เอสเอสไอ ยูเค จะมุ่งเน้นถึงความปลอดภัยสูงสุดและความสม่ำเสมอ ในการผลิต โดยมีเป้าหมายผลิตให้ได้ 10,000 ตันต่อวัน และเป้าหมายการผลิตเหล็กแท่งแบนของโรงงานแห่งนี้ในปี 2555 คือ 2.2 ล้านตัน และเพิ่มเป็น 3.6 ล้านตันต่อปีในปี 2556 เหล็กแท่งแบนที่ผลิตได้ส่วนหนึ่งจะขายในตลาดต่างประเทศ และส่วนหนึ่งจะถูกส่งเข้ามาเสริมยอดการผลิตและยอดขายของเอสเอสไอในประเทศไทย ซึ่งนับเป็นช่วงจังหวะที่ดีเพราะเศรษฐกิจโลกและอุตสาหกรรมเหล็กกำลังปรับตัวในทิศทางขาขึ้นหลังผ่านจุดตํ่าสุดในไตรมาส4/2554 และสอดรับกับตลาดเหล็กแผ่นในประเทศไทยที่คาดการณ์ว่ามีแนวโน้มที่จะเติบโตในอัตราสูงถึงร้อยละ 7-8 ต่อปี ในระยะ10 ปีข้างหน้า