- The Group recorded consolidated losses of 33,122 MB, resulted from loss on liquidation of subsidiary of 28,877 MB.
- On 1 October 2015, the Central Bankruptcy Court accepted an application for Business Rehabilitation of the Company, and the preliminary hearing was scheduled on 21 October 2015.
- On 2 October 2015, the court accepted an application for SSI UK’s liquidation.
Mr. Win Viriyaprapaikit, Group CEO and President of Sahaviriya Steel Industries Plc. (SSI), revealed the Q3/2015 operating result that “The Company and its subsidiaries recorded sales and service revenues Baht 10,543 million, down 11% QoQ and 25% QoQ, resulted from a decrease in sales of HRC Business 7% QoQ, and 37% YoY and a decrease in sales to 3rd party customers of Upstream Business 15% QoQ, and 8% YoY. Total cost of sales and service was Baht 13,681 million; down 1% QoQ and 1% YoY.” The Company and its subsidiaries reported net loss Baht 33,122 million due to both lower HRC Spread in HRC Business and Slab Spread in Upstream Business as steel prices in the world market continued to decline, as well as expected loss on liquidation of subsidiary Baht 28,877 million.”
“Global steel over-capacity and demand imbalance since late 2014 and the continuous decline in steel price resulted in a huge operating loss for the Group this year, particularly in the Upstream Business. However, in Q3/2015 such situation remained unchanged and, on the other hand, further deteriorated and resulted in bigger losses at the Upstream Business. Consequently, SSI UK was required to temporarily suspend its steelmaking operation on 18 September 2015 and subsequently applied to the court for liquidation on 2 October 2015. At present, the Company on a conservative basis expects zero recovery after the completion of SSI UK liquidation. As SSI UK’s main asset is a large iron and steel making plant, controlled under the Control of Major Accident Hazards regulation, there are uncertain external factors which are beyond the Company’s control, for instance the validity of the environmental permit, access and ability to safeguard the assets, etc. The legal and liquidation proceeding in this case is unprecedented and unclear to the Company at this stage. In the meantime, the Company is in discussion with legal advisors and the Major Creditors to determine further steps,” Mr. Win said.
Nevertheless, the Company had been discussing with the Major Creditors the solution for the HRC Business to carry on operations as normal, including to maintain business value of the Company. The Company decided to submit an application for Business Rehabilitation to the court on 1 October 2015. The court has accepted the application, and the preliminary hearing of such application is scheduled on 21 December 2015.
บริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2558
- ขาดทุนสุทธิรวม 33,122 ล้านบาท โดยรวมประมาณการขาดทุนจากการชำระบัญชีของ SSI UK 28,877 ล้านบาท
- วันที่ 1 ตุลาคม 2558 ศาลล้มละลายกลางรับคำร้องขอฟื้นฟูกิจการของบริษัทฯ นัดไต่สวนคำร้องในวันที่ 21 ธันวาคม 2558
- วันที่ 2 ตุลาคม 2558 ศาลรับคำร้องขอยกเลิกกิจการและชำระบัญชีของ SSI UK
นายวิน วิริยประไพกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) หรือ เอสเอสไอ เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2558 ว่า “บริษัทฯและบริษัทย่อยมีรายได้จากการขายและให้บริการรวม 10,543 ล้านบาท ลดลง 11% QoQ และ 25% YoY จากยอดขายของธุรกิจเหล็กแผ่นรีดร้อนที่ลดลง 7% QoQ และ 37% YoY และยอดขายของธุรกิจโรงถลุงเหล็กให้แก่บุคคลภายนอกที่ลดลง 15% QoQ และ 8% YoY โดยมีต้นทุนขายและให้บริการรวม 13,681 ล้านบาท ลดลง 1% QoQ และ 1% YoY มีผลขาดทุนสุทธิ 33,122 ล้านบาท เนื่องจากส่วนต่างระหว่างราคาขายและวัตถุดิบที่ลดลงของทั้งธุรกิจเหล็กแผ่นรีดร้อนและธุรกิจโรงถลุงเหล็ก ซึ่งเป็นผลมาจากราคาเหล็กในตลาดโลกที่ยังคงปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง และประมาณการขาดทุนจากการชำระบัญชีของบริษัทย่อย 28,877 ล้านบาท”
“ด้วยสภาวะตลาดเหล็กโลกที่กำลังการผลิตล้นความต้องการของตลาดอย่างรุนแรง อุปสงค์และอุปทานไม่สมดุลอย่างหนัก ตั้งแต่ปลายปี 2557 เป็นต้นมา ราคาเหล็กยังปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้กลุ่มบริษัทประสบปัญหาขาดทุนอย่างหนักในปีนี้ โดยเฉพาะจากธุรกิจโรงถลุงเหล็ก อย่างไรก็ตามในไตรมาส 3/58 สภาวการณ์ดังกล่าว ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดในทางตรงกันข้ามกลับทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นและส่งผลให้การดำเนินงานของธุรกิจโรงถลุงเหล็กขาดทุนเพิ่มขึ้นมาก ดังนั้น SSI UK จึงประกาศหยุดการผลิตเหล็กแท่งแบนชั่วคราวในวันที่ 18 กันยายน 2558 และยื่นคำร้องขอยกเลิกกิจการและชำระบัญชี (Liquidation) ต่อศาลในวันที่ 2 ตุลาคม 2558 ทั้งนี้ บริษัทฯ ประเมินมูลค่าที่คาดว่าจะได้รับคืนหลังสิ้นสุดกระบวนการชำระบัญชีของ SSI UK เชิงอนุรักษ์นิยมเป็นศูนย์ เนื่องจากทรัพย์สินหลักของ SSI UK เป็นโรงงานถลุงเหล็กและผลิตเหล็กกล้าขนาดใหญ่ ถูกควบคุมโดยกฎระเบียบพิเศษทางด้านความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม Control of Major Accident Hazards (COMAH) มีปัจจัยภายนอกหลายปัจจัยที่มีความไม่แน่นอนและอยู่นอกเหนือการควบคุมของบริษัทฯ เช่น ความใช้ได้ของใบอนุญาตทางสิ่งแวดล้อม ขั้นตอนและกฎระเบียบในการดูแลรักษาทรัพย์สิน เป็นต้น จึงทำให้กระบวนการชำระบัญชีในกรณีนี้อยู่นอกเหนือกรณีปกติที่เคยมีมา ยังมีความไม่ชัดเจนในเชิงกฎหมายและขั้นตอนการชำระบัญชีโดยเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ทั้งนี้ บริษัทฯอยู่ระหว่างการหารือกับที่ปรึกษาทางกฎหมายและกลุ่มธนาคารเจ้าหนี้รายใหญ่เพื่อกำหนดแนวทางดำเนินการต่อไป”
“อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ได้ร่วมหารือกับกลุ่มธนาคารเจ้าหนี้รายใหญ่เพื่อหาแนวทางในการรักษาธุรกิจเหล็กแผ่นรีดร้อนของบริษัทฯ ให้สามารถดำเนินการได้ตามปกติและรักษามูลค่าทางธุรกิจของบริษัทฯ ไว้ และได้ตัดสินใจยื่นเรื่องต่อศาลล้มละลายกลางเพื่อเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2558 โดยศาลฯ ได้รับคำร้องขอฟื้นฟูกิจการของบริษัทฯ แล้ว และมีกำหนดนัดไต่สวนคำร้องดังกล่าวในวันที่ 21 ธันวาคม 2558”