SSI put more emphasis on competitive capability by stressing on R&D to continually improve quality of products and manufacturing procedures. 42 works have been certified by NSTDA. The next target is to develop products with high-end customers to emphasize its position as the ASEAN’s market leader of high-grade steel sheets.
Mr. Win Viriyaprapaikit, President of Sahaviriya Steel Industries Public Company or SSI, said that the research and development (R&D) works of SSI have been successfully and continually achieved since 2006 in respond to the mission “the market leader of high-grade steel sheets of ASEAN, creating sustainable value for stakeholders”. Presently, 42 researching projects of SSI and its subsidiary, i.e. West Coast Engineering Company Limited (WCE) have been certified by National Science and Technology Development Agency (NSTDA) with total costs of research projects worth more than 45 million Baht and 90 persons were registered to be the researchers by NSTDA.
Examples of important research works and developments of SSI and its subsidiary included Development of Forming Limit Diagram (FLD) in Deep Drawing Process for Compressor Product, Design and Development of Tail End Compensation System (TEC) to Control Thickness Consistency Hot Rolled Coil Product Length, Design and Development of Heat Shield at Reheating Furnace to Reduce Heat Loss, Effect of Deep Drawing Process on Microstructure of Low Carbon Steel, Development of Spindle Shaft by Welding Method and Development of CNC Engraving Machine.
“R&D projects by R&D Department of the Company emphasized on the works which will be beneficial to the study and development of Thai steel industry on continued basis, especially the quality improvement of hot rolled steel sheet which is the core product of SSI in order to respond to the needs of the high-grade steel customers. The research work also placed importance on the continually development and improvement of production quality as per the plan to become the sustainable learning organization”, said Mr. Win.
Mr. Win also said that the next target of R&D works of SSI is R&D on joint product development with the customers, particularly steel products which require high-grade production technology, such as automobile industry and auto parts manufacturers. It can be said that SSI will expands its role from being the manufacturer to be the product designer for the customers. This will be another way to support and make the customers achieve their business target.
In addition, the business partners and competitive capability are very crucial for the steel industrial development, from upstream to downstream, in today’s world. Focusing on R&D works is the most important fundamental to technology development as well as growing together with the business partners. This is the way that the world’s leading steel manufacturers adhere to. Therefore the capability development guidelines currently operated by SSI can be regarded as an important part to boost up and keep SSI business for sustainable growth.
เอสเอสไอลุย R&D – สวทช. รับรอง 42 งานวิจัย
ขยับพัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมกับลูกค้าระดับบน
เอสเอสไอ เดินหน้าเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ลุยงานวิจัยและพัฒนา (R&D) เพื่อปรับปรุงคุณภาพผลิตภัณฑ์และกระบวนการผลิตอย่างต่อเนื่อง เผย 42 งานวิจัยได้รับการรับรองจาก สวทช. แล้ว มุ่งเป้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมกับลูกค้าระดับบน เพื่อตอกย้ำการเป็นผู้นำตลาดเหล็กแผ่นชั้นคุณภาพพิเศษแห่งอาเซียน
นายวิน วิริยประไพกิจ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทสหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) หรือ “เอสเอสไอ” เปิดเผยว่า บริษัทประสบความสำเร็จในงานวิจัยพัฒนา (Research and Development) อย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ปี 2549 เป็นต้นมา เพื่อตอบสนองต่อภาระกิจในการก้าวขึ้นเป็น “ผู้นำตลาดเหล็กแผ่นชั้นคุณภาพพิเศษแห่งอาเซียนและสร้างผลตอบแทนแก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างยั่งยืน” ปัจจุบันมีผลงานจากโครงการวิจัยของบริษัทและบริษัทย่อย ได้แก่ บริษัท เวสท์โคสท์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (WCE) ที่ได้รับการรับรองจากสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) รวม 42 โครงการวิจัย รวมมูลค่าโครงการวิจัยกว่า 45 ล้านบาท และมีบุคลากรที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นนักวิจัยโดย สวทช. รวมทั้งสิ้น 90 คน
ตัวอย่างผลงานโครงการวิจัยและพัฒนาที่สำคัญๆ ของ เอสเอสไอ และบริษัทย่อย ได้แก่ แผนภาพขีดจำกัดการขึ้นรูปสำหรับเหล็กแผ่นรีดร้อนสำหรับงานขึ้นรูปคอมเพรสเซอร์ ซอฟท์แวร์เพื่อควบคุมความหนาของเหล็กแผ่นรีดร้อนให้สม่ำเสมอ แผงกั้นความร้อนของเตาเผาเพื่อลดการสูญเสียพลังงานความร้อน การศึกษาผลของการลากขึ้นรูปที่มีต่อโครงสร้างทางโลหะวิทยาของเหล็กแผ่นรีดร้อนคาร์บอนต่ำ การผลิตชุดเพลาส่งกำลังโดยกรรมวิธีเชื่อมต่อ และการผลิตเครื่องกัดลายลูกรีดจากเครื่องกลึงอัตโนมัติ
“โครงการวิจัยและพัฒนา โดยฝ่ายวิจัยและพัฒนาของบริษัท มุ่งเน้นการดำเนินงานวิจัยที่เป็นประโยชน์ต่อการศึกษา ค้นคว้าและพัฒนาอุตสาหกรรมเหล็กของไทยอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาคุณภาพสินค้าเหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วนซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์หลักของเอสเอสไอ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในกลุ่มผู้ใช้เหล็กแผ่นชั้นคุณภาพพิเศษ รวมถึงการพัฒนาและปรับปรุงคุณภาพการผลิตอย่างต่อเนื่องตามแผนงานการมุ่งสู่การเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้อย่างยั่งยืน” นายวิน กล่าว
นายวิน กล่าวอีกว่าเป้าหมายต่อไปของงานวิจัยและพัฒนาของเอสเอสไอ คือ การวิจัยและพัฒนาสินค้าร่วมกับลูกค้าโดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เหล็กที่ต้องใช้เทคโนโลยีในการผลิตขั้นสูง (High Grade) เช่น ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมรถยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ ถือได้ว่าเอสเอสไอขยายบทบาทจากการเป็นผู้ผลิตเพื่อจำหน่าย ไปสู่การออกแบบผลิตภัณฑ์สำหรับลูกค้า ซึ่งช่วยส่งเสริมและสนับสนุนให้ลูกค้าบรรลุผลสำเร็จเชิงธุรกิจได้อีกทางหนึ่ง
ทั้งนี้ในการพัฒนาอุตสาหกรรมเหล็กตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำในโลกปัจจุบัน พันธมิตรทางธุรกิจและขีดความสามารถในการแข่งขัน ขององค์กรถือเป็นเรื่องสำคัญ การมุ่งเน้นกับงานวิจัยและพัฒนาซึ่งถือเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยี ตลอดจนการเติบโตร่วมกันกับพันธมิตรทางธุรกิจ ถือเป็นแนวทางที่ผู้ประกอบอุตสาหกรรมเหล็กรายสำคัญของโลกดำเนินการอยู่ ดังนั้นแนวทางการพัฒนาขีดความสามารถที่เอสเอสไอดำเนินการอยู่ดังกล่าวจึงเป็นส่วนสนับสนุนที่สำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจของเอสเอสไอเติบโตได้อย่างยั่งยืน