SSI becomes the first steel manufacturer in Thailand, to achieve again a historical record of 25 million tons accumulated production of hot-rolled coil. With its workforce highly motivated and focused in continuous innovation, Sahaviriya Steel Bangsaphan Plant in Prachuab Khirikhan is accelerating production volumes to meet the increased demand in the latter half of 2011.
Mr. Win Viriyaprapaikit, President and Group CEO of Sahaviriya Steel Industry Public Company Limited or “SSI”, revealed that on August 17, 2011 at 4.18am, Sahaviriya Steel Bangsaphan Plant in Prachuab Khirikhan produced hot-rolled coil steel accumulatively to 25 million tons, the highest record of Thailand. SSI plans to step up production volumes to support increasing sales in the latter half of 2011, which is expected to rise up to 1.2 million tons.
Mr. Win said that “Since being founded in 1990, with cooperation and dedication of all employees for 20 years, SSI has grown up continually and could overcome many difficult obstacles. Building on our strong passion to develop Thailand steel industry, total accumulated production of 25 million tons was achieved today. This marks an important history of steel industry of Thailand and pride of SSI. I deeply appreciate every customer and employee who helped contribute to this success.”
SSI’s hot-rolled coil production had been constantly upgraded in both output and quality level in accordance with the Company’s philosophy to aim for excellence so that our product could earn more and more trust from customers. It took 14 years to reach the first 12.5 million tons of production, but the latter 12.5 million tons achievement comes within only 7 years. This 25 million ton achievement is the first and only one in Thailand. Presently, SSI focuses on R&D and continuous innovation for premium value steel products to serve increasing demand of the region. These are consistent with the Company’s vision and mission which is to “Innovate premium value steel products and services for customer; generate consistent profit and sustainable value for stakeholders”.
Recent innovations are 1) Value Plus Products whose quality control goes beyond general standards in terms of dimension, thickness, width, and mechanical qualities 2) Ultra thin gauge hot-rolled products as thin as 0.90 mm. which only SSI can produce commercially in Thailand 3) Hot-rolled steel for deep drawing with induction heater technology to control grain size which can help customers reduce loss from edge cutting 4) Special chemical component-added steel for enhancing elongation and surface strength 5) Tailor-made products according to customer’s application.”

Mr. Win added that in the second half of 2011, production plan has been adjusted to support the increased sales which are projected to be 40 percent more than the first half of 2011 to be 1.2 million tons. In addition, SSI is confident to achieve significant growth rate after Sahaviriya Steel Teesside Plant in the United Kingdom restart its slab production in this coming December.

SSI จารึกประวัติศาสตร์ผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนทะลุ 25 ล้านตัน

ระดมนวัตกรรมเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ ตอกย้ำภาพผู้นำอุตฯเหล็กระดับโลก

เอสเอสไอบันทึกประวัติศาสตร์อีกครั้งประกาศความสำเร็จฉลองผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วนครบ 25 ล้านต้นเป็นรายแรกของประเทศไทย โรงงานสหวิริยาสตีลบางสะพานโชว์ความพร้อมด้านบุคลากรและระดมสร้างนวัตกรรมต่อเนื่อง พร้อมเร่งการผลิตสนองความต้องการซื้อที่เพิ่มขึ้นในครึ่งหลังของปี 2554

นายวิน วิริยประไพกิจ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) หรือเอสเอสไอ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2554 เวลา 4.18 น. โรงงานสหวิริยาสตีลบางสะพาน ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้ทำการผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วน (HSM) สะสมครบ 25 ล้านตันเป็นรายแรกของประเทศไทย โดยเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มแก่ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง พร้อมเพิ่มการผลิตรับปริมาณขายในครึ่งหลังของปี 2554 ที่คาดว่าจะสูงขึ้นเป็น 1.2 ล้านตัน

นายวิน กล่าวว่า “เอสเอสไอก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ.2533 ด้วยความร่วมมือร่วมใจและทุ่มเททำงานอย่างหนักของพนักงานทุกคนรวมระยะเวลากว่า 20 ปี ส่งผลให้บริษัทมีความเจริญเติบโตยิ่งๆ ขึ้น รวมถึงสามารถผ่านอุปสรรคสำคัญๆ มาได้หลายครั้ง ความตั้งใจแน่วแน่ของพวกเราที่มุ่งพัฒนาอุตสาหกรรมเหล็กของประเทศไทยได้นำมาสู่การบรรลุยอดการผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วนสะสมครบ 25 ล้านตัน เมื่อวันที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นประวัติศาสตร์สำคัญอีกหน้าหนึ่งของอุตสาหกรรมเหล็กของประเทศไทย และสร้างความภาคภูมิใจให้กับเอสเอสไอ ผมขอขอบคุณลูกค้าและพนักงานเอสเอสไอที่มีส่วนสำคัญต่อความสำเร็จในครั้งนี้”

การผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนของเอสเอสไอได้พัฒนาสูงขึ้นทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ ภายใต้ปรัชญาการดำเนินธุรกิจที่มุ่งมั่นในความเป็นเลิศและยึดมั่นในคุณภาพของสินค้า จนได้รับความไว้วางใจและความเชื่อมั่นจากลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยสถิติการผลิตเหล็กรีดร้อนชนิดม้วนของเอสเอสไอได้ครบ 12.5 ล้านตันแรกใช้ระยะเวลาการผลิตรวม 14 ปี ในขณะที่การผลิตจำนวน 12.5 ล้านตันล่าสุดใช้ระยะเวลาเพียง 7 ปี ซึ่งส่งผลให้ยอดการผลิตสะสมครบ 25 ล้านตันเป็นรายแรกและรายเดียวของประเทศไทย โดยปัจจุบันเอสเอสไอมุ่งเน้นการวิจัยพัฒนาและสร้างนวัตกรรมผลิตภัณฑ์เหล็กแผ่นชั้นคุณภาพพิเศษเพื่อรองรับความต้องการใช้เหล็กที่เพิ่มขึ้นของภูมิภาค ตามวิสัยทัศน์และพันธกิจของบริษัท คือ สร้างสรรค์นวัตกรรมผลิตภัณฑ์เหล็กและบริการที่มีมูลค่าเพิ่มกับลูกค้า สร้างกำไรสม่ำเสมอ สร้างผลตอบแทนแก่ผู้มีส่วนได้เสียอย่างยั่งยืน

“เอสเอสไอได้มุ่งเน้นสร้างสรรค์นวัตกรรมของกระบวนการผลิตและสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มให้กับลูกค้ามาอย่างต่อเนื่อง อาทิ 1) พัฒนาผลิตภัณฑ์ชั้นคุณภาพพิเศษ Value+1 (Value plus product) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีการควบคุมคุณภาพเหนือกว่ามาตรฐานทั่วไป ทั้งทางด้าน มิติ ความหนา ความกว้าง และคุณสมบัติเชิงกล 2) การผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดบางพิเศษ (Ultra thin gauge 0.90 มม) ในเชิงการค้าได้สำเร็จเป็นรายเดียวของประเทศ 3) การผลิตเหล็กสำหรับงานขึ้นรูปลึกโดยใช้เทคโนโลยีการควบคุมขนาดเกรน (Grain Size) ที่สม่ำเสมอกันตลอดหน้าตัด ซึ่งสามารถใช้งานได้ตลอดหน้าตัดและช่วยลดการสูญเสียจากการตัดขอบ 4) ผลิตภัณฑ์เหล็กเพิ่มส่วนผสมทางเคมีพิเศษเพื่อเสริมคุณสมบัติการยืดตัวและความแข็งของผิว และ 5) การออกแบบผลิตภัณฑ์เหล็กม้วนแบบเฉพาะตามลักษณะการใช้งานของลูกค้า (Tailor-made design) เป็นต้น” นายวินกล่าวและเพิ่มเติมว่าในครึ่งหลังของปี 2554 ได้มีการปรับแผนการผลิตเพื่อรองรับปริมาณการขายที่คาดว่าจะมากกว่าครึ่งปีแรกถึงร้อยละ 40 เป็นจำนวน 1.2 ล้านตัน และมั่นใจว่าเอสเอสไอจะยังสามารถเติบโตก้าวหน้าแบบทวีคูณยิ่งขึ้นไปอีกหลังจากโรงงานสหวิริยาสตีลทีไซด์ ที่ประเทศอังกฤษเปิดการถลุงและผลิตเหล็กแท่งแบนในเดือนธันวาคม ที่จะถึงนี้

Leave a Reply